ข่าวสาร ความรู้/การเลี้ยงสุกร >> "ครอบครัวหมู" รูปแบบการเลี้ยงเพื่อความยั่งยืน มีรายได้ทุกวัน 29 พ.ค. 2563 15:51:52 |
![]() ![]() ![]() จริงๆแล้วสูตรการเลี้ยงของแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน บางคนคิดเล็ก บางคนคิดการใหญ่ ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม และชุมชนที่เลี้ยงอยู่ด้วยครับ บางที่ แนวคิด หรือ โมเดลนี้ อาจจะใช้ไม่ได้ กับบางที่ก็ได้ จริงๆแล้วแนวคิดการเลี้ยงแบบครอบครัวหมูก็เพื่อ ลดปัญหาเรื่องสภาพคล่องทางการเงิน เพราะการเลี้ยงหมูขุน กว่าจะได้คืนทุนก็ปาเข้าไปเกือบ4เดือน แต่ในสี่เดือนนี้ต้องจ่ายออกตลอด(ค่าอาหาร)บางที่วางแผนเรื่องทุนไม่ดีเงิน หมดเลี้ยงหมูยังไม่โตเต็มที่ ต้องขายเพราะหมดเงิน พ่อค้าก็กดราคาซื้อ เพราะหมูยังไม่ถึงร้อย หรือ เลี้ยงแม่พันธุ์ กว่าจะได้ขายลูกหมูก็ปาเข้าไป 5 เดือน โดยที่ไม่มีรายได้เลยมีแต่ จ่าย จ่ายและก็จ่าย แต่ถ้าเรามีพ่อพันธุ์ด้วย อย่างน้อยเราก็ได้ใช้เอง และต้องหาวิธี ให้คนอื่นช่วยใช้ มันถึงจะคุ้มค่าตัว ค่าอาหาร ที่แรกก็กะจะให้ได้พอเป็นค่าอาหารของตัวมันเอง แต่เอาไปเอามา แถวบ้านมีแม่พันธุ์เยอะ รายละ 2-3 ตัว พ่อพันธุ์เลยสามารถเลี้ยงตัวเองได้สบาย แถมยังเลี้ยง หมูอื่นที่ยังไม่มีรายได้ได้อีก ที่เรียกว่าครอบครัวหมู คือมันมีทั้ง พ่อ แม่ ลูก พี่ น้อง ลุง ป้า น้า อา หมายถึงการนับญาติหมูนะ แต่ละตัวก็จะสร้างรายได้ รายรับต่างเวลา ลดหลั่นกันไป ทำให้เกิดการหมุนเวียนเงินในระบบอย่างคล่องตัว เพราะการเลี้ยงหมู 70% เป็นค่าใช้จ่ายเรื่องอาหาร ถ้าบริหารสภาพคล่องไม่ดี ช็อตเอาดื้อๆนา การเลี้ยงแบบนี้ก็เหมือนการเลี้ยงทั่วไปครับ แต่อย่าลงทุนเรื่องโครงสร้างโรงเรือน จนเงินหมด เพราะพวกนี้เป็นการลงทุนที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ทำโรงเรือนจนไม่มีเงินเหลือเลี้ยงหมู ถ้ามีเงิน สมมติ 10,000 อย่าซื้อหมูเกิน3,000 ถึงจะเลี้ยงหมูได้ ยกตัวอย่างที่ฟาร์ม เดือน กค 52 ผม ผสมไป 43 แม่ รายรับมาแล้วประมาณ 15,000 จ่ายค่าอาหารในระบบทั้งหมด 10,000 และ2เดือนก่อน (ปลาย พ.ค.) มีหมูพันธุ์คลอด 2 ครอกมาขายเดือนนี้ แล้ว 11 ตัว เงิน 34,500 บาท เดือนนี้ มีกำไรเยอะหน่อย 5,000 +34,500 วันที่ 4 กค. ลูกสองสายคลอด จะขาย ปลายสิงหา ก็เป็นกำไร ของเดือนสิงหา เพราะเดือนนี้ก็ผสมไปแล้ว 8 ราย เฉลี่ยทุกเดือนประมาณ 30-40 ราย เพราะมีแม่ในระบบประมาณ 250 แม่ ถ้าหารทุก 5 เดือน ก็จะมีงาน อย่างต่ำเดือนละ 40-50 งาน แต่เราต้องพัฒนาเขาด้วยนะ ให้เขาอยู่ได้ เราก็จะอยู่ได้ เหมือนการตัดผม ถ้ามีลูกค้าประจำ สัก 100 ราย เขาก็ต้องหมุนเวียนกลับมาตัด ทุก 1-2 เดือนอยู่แล้ว อันนี้เป็นทักษะที่ต้องพัฒนารูปแบบเอาเอง ![]() แต่ยินดีแนะนำครับ ถ้าสะดวกก็มาดูงานก่อนก็ได้ ตอนนี้กำลังเรียบเรียงเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อขยายผลต่อไป รวมทั้งปัญหา อุปสรรค จุดอ่อน จุดแข็ง แต่มีข้อคิดฝากนิดนึง การเลี้ยงหมูไม่ใช่ การคิดเลข เลี้ยงสองตัวอาจได้กำไร แต่เลี้ยง 20 ตัวอาจขาดทุน ทุกอย่างขอให้เริ่มจากเล็กไปใหญ่ ไม่มี วันพลาดครับ คนไทย ทำใหญ่ไปหาเล็ก แต่คนเจ็กทำจากเล็กไปหาใหญ่ ครอบครัวธุรกิจชาวจีนเขาถึงยั่งยืนไงครับ แลกเปลี่ยนคร่าวๆแค่นี้ก่อนนะครับ การเลี้ยงหมูแบบ"ครอบครัวหมู"เป็นรูปแบบที่เคยเลี้ยงมา 10 กว่าปีเหมือนกัน หลักการคร่าวๆ คือการเลี้ยงหมูหลากหลายวัย หลายรุ่นในฟาร์มเดียวกัน ไม่เลี้ยงมากเกินกำลัง อาศัยหลักเลี้ยงน้อยมีกำไร หรือเลี้ยงใหญ่แล้วขาดทุน เลี้ยงพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ ลูกพันธุ์ หมูเล็ก หมูรุ่น หมูขุน ตัวกลไกสำคัญคือพ่อพันธุ์จะเป็นทั้งผู้ให้ผลผลิต และหารายได้มาเลี้ยงหมูในครอบครัว หรือเลี้ยงหมูที่เหลือทั้งหมด หาได้มากน้อยขึ้นอยู่กับเทคนิคของฟาร์ม(ยินดีแนะนำ ถ้าสนใจ) เพราะจะเป็นรายได้ที่รับประจำเกือบทุกวัน ส่วนรายได้ทุกเดือน เอาจากแม่พันธุ์ขายลูก (เลี้ยง 4-5 แม่ หมุนเวียนคลอด) รายได้ทุก 2-3 เดือน เอาจากหมูขุน รายได้แบบไม่ระบุแน่นอน มาจากหมูรุ่น (ขายขนาดตัวตามความต้องการคนซื้อ ใช้ในงานต่างๆ ส่วนมากจะได้ราคาดีกว่า ราคาตลาด) สรุปคือ ![]() พ่อพันธุ์หาเงิน เอาซื้ออาหารเลี้ยงตนเอง และแม่พันธุ์ หรือหมูรุ่น หมูขุนด้วย แบบว่าเอาหมูเลี้ยงหมู แต่ละเดือนต้องมีแม่พันธุ์คลอดขายลูกเป็นกำไรทั้งหมด บางเดือนขายหมูขุนอีก ก็เป็นกำไร เพราะทุนทั้งหมดมาจากพ่อพันธุ์แล้ว ยกตัวอย่างพ่อพันธุ์ 4 ตัว รายรับ เฉลี่ยเดือนละ12,000 (30*400) จ่ายเป็นค่าอาหารทั้งหมด 8,000 เหลือ4,000 พอสิ้นเดือน ขายลูกหมู 10*12 ก็ 12,000 รวมรายรับ 16,000 พอดีเดือนนี้ขายหมูรุ่นได้อีก 1 ตัว 3,000 รับไปแล้ว 19,000 คิดแบบคร่าวๆนะครับ อาจน้อยหรือมากกว่านี้ขึ้นกับปัจจัยอื่นๆที่ไม่อาจควบคุมได้ เช่น ราคาลูกหมู ราคาหมูขุน หรือความเสียหายอื่น |